[MOD] ยังไม่โหดพอใช่มั้ย! มาเล่นเป็นบอสใน Downfall – A Slay the Spire ส่วนเสริมที่แจ่มว้าวมาก!

เชื่อว่าเพื่อนๆหลายๆคนคงจะเคยรู้จักหรือเคยเล่นกันมาบ้างแล้วกับเกม Deck Builder-RPG สุดมันส์ บน Steam ที่ใช้การเก็บสะสมการ์ดจัด Deck ต่อสู้ผจญแทนการเก็บ LV ซึ่งตัวเกมจะมี 4 ตัวละคร 4 สไตล์ที่แตกต่างกันอย่างมากในการเล่น ซึ่งตัวเกมได้รับความนิยมจนขึ้นแท่นอันดับหนึ่งของเกมแนว Deck Building-RPG ซึ่งจากความไม่ธรรมดาของตัวเกมTable 9 Studio จึงพัฒนา Mod ต่อยอดให้กับเกม Slay the Spire ด้วยการใช้บอสหรือมอนสเตอร์ลุยในด่านได้ล่ะเอ้อ! จะสนุกแค่ไหนมาดูรีวิวกัน

หากเซิร์ท Slay the Spire แล้วเจอDownfall – A Slay the Spire ในร้านค้า อย่าพึ่งตกใจว่าเป็นแพทซ์ใหม่หรือ DLC แต่หากเป็น Modอย่างเป็นทางการที่ขึ้นในร้านค้า(?) ซึ่งทางไรเตอร์เองก็พึ่งเคยเจอว่า Mod เกมสามารถขึ้นบนร้านค้าได้อย่างไร(ปกติจะอยู่ใน Workshop) แต่ไม่ว่าแบบไหน Mod ตัวนี้สามารถโหลดฟรี เฉพาะคนที่มีเกม Slay the Spire แล้วเท่านั้น (ติดตั้งได้จากร้านค้าได้เลย)

สิ่งที่เพิ่มมาใน Downfall – A Slay the Spire
+ เพิ่มโหมด Downfall (ที่ใช้ตัวละครมอนสเตอร์)
+ สามารถใช้ตัวละครมอนสเตอร์ได้ทั้ง 7 ตัว ในโหมด Downfall ได้
+ เพิ่มฮีโร่ 1 ตัว The Hermit ในโหมดมาตราฐาน
+ เพิ่มระบบการ์ดบอส
+ เพิ่มเครื่องราง ,การ์ด ,ขวดน้ำยา ,Event ใหม่

สำหรับใครที่ยังเล่นไม่เป็นหรืออยากจะลองเล่นภาคหลักก่อน คลิกที่นี่

สำหรับโหมด Downfall นั้น เราจะเลือกใช้ตัวละครมอนสเตอร์ได้เท่านั้น เช่น Slime ,Guarian ,Hexaghost ซึ่งความสามารถของมอนสเตอร์แต่ละตัวนั้นถือว่าจัดจ้านและแปลกแหวกแนวซะยิ่งกว่าฮีโร่ซะอีก โดยเริ่มแรกจะสามารถใช้ได้เฉพาะ The Slime Boss ก่อน จากนั้นจะสามารถค่อยๆปลดล็อคตัวต่อไปได้จนครบ 7 ตัว โดยมีตั้งแต่ The Slime Boss ,The Guarian , The Hexaghost ที่เป็นบอส Chapter 1 (ส่วนอีก 4 ตัวไปลุ้นกันเอาเองนะเอ้อ)

ในการเดินทางปราบฮีโร่(?) เราจะต้องลุยทั้ง 3 Chapter เหมือนกับฝั่งฮีโร่ปกติ แต่จะเดินทางจากเบื้องบนลงเบื้องล่าง ซึ่งจะเจอมอนสเตอร์ กล่องสมบัติ Event ต่างๆเหมือนฝั่งฮีโร่เลย แต่ร้านขายของ พ่อค้าจะมาสู้กับเราแทน(อ่าว?) แต่ไม่ต้องห่วง หลังจากขับไล่พ่อค้าได้ นายของเรา(Spire) จะเป็นคนขายของให้เราแทน

เมื่อถึงปลายทางในแต่ละ Chapter จะต้องปะทะกับฮีโร่ 1 คน ต้องขอบอกเลยว่าแต่ละคนมาแบบจัดเต็ม ขนการ์ด ขนอุปกรณ์มากันเพียบ แต่ไม่ต้องห่วง ฮีโร่พวกนี้อาจจะโดนเนิร์ฟด้วยคำสาปบางอย่างในแต่ละเทิร์น เราสามารถค่อยๆวิเคราะห์แล้วสู้จนชนะได้ไม่ยาก(มั้ง?) อย่าลืมสะสมกุญแจเพื่อปลดล็อค Chapter 4 ด้วยล่ะ อาจจะเจอตัวละครลับที่คาดไม่ถึงอยู่

ความสามารถของตัวละคร

เนื่องจากมีตัวละครใหม่ถึง 8 ตัว แต่ละตัวมีลูกเล่นน่าสนใจไม่น้อยถ้ารีวิวหมดจะยาวเป็นสิบหน้าแน่ๆ จึงจะยกมารีวิวซัก 3 ตัวเพื่อให้เพื่อนๆได้รู้จักและคอปเสปของแต่ละตัวก่อน แล้วจึงศึกษาต่อ

The Slime Boss

ความสามารถเริ่ม : Heart of Goop (หากโจมตีศัตรูที่ติดสถานะ Goop จะฟื้นฟู HP 2 สูงสุด8)

ตัวโปรดของไรเตอร์ สำหรับตัวบอสไลม์นี้จะสามารถเรียกสไลม์ลูกน้อง(มี 4 ประเภท) ขึ้นมาได้สูงสุด 3 ตัวผ่านการ์ด Split โดยเหล่าสไลม์ลูกน้องจะใช้ความสามารถเมื่อเริ่มเทิร์นถัดไป แต่หากใช้การ์ด Command จะสามารถสั่งให้สไลม์ลูกน้องใช้งานความสามารถได้ทันที (ถ้ามี All command จะคุ้มมากสั่งโจมตีทุกตัว)

นอกจากมียังมีการ์ด Tackle ที่โจมตีแรงมากกก แต่จะเสีย HP ตัวเองนิดหน่อย ซึ่งต้องระวังให้ดี โดยการเล่นของ The Slime Boss จะเน้นเรียกลูกน้อง แล้วใช้สถานะ Goop (โดนโจมตีแรงขึ้นตามจำนวน Goop) แล้วใช้ Tackle โจมตีแบบแรงๆแล้วได้ HP คืน

The Guardian

ความสามารถเริ่ม : เมื่อเปลี่ยนเป็น Defensive mode จะได้รับเกราะ 10

สำหรับ The Guardian จะมีลูกเล่นเฉพาะตัวก็คือ เมื่อรับความเสียหายจนถึงจุดหนึ่งจะเปลี่ยนโหมดเป็นโหมดป้องกัน จะได้รับเกราะและบัฟ”หนาม” ซึ่งการ์ดของบอสตัวนี้ก็จะเน้นที่การสลับโหมด หรือการเร่งให้เปลี่ยนโหมดไวขึ้น

อีก 2 ความสามารถของบอสตัวนี้คือ Slot สามารถนำ Gem ที่ได้รับจากการผจญภัยมาใส่ในการ์ดที่มี Slot ซึ่งจะได้รับผลของ Gem ด้วยเมื่อใช้การ์ดนั้นๆ โดยสามารถใส่ Gem ได้ที่กองไฟ และความสามารถสุดท้าย Stasis คือการนำการ์ดไป Hold ไว้ด้านบน 1-3 เทิร์น(เทิร์นตามค่า costการ์ด+1) เมื่อได้การ์ดกลับคืนมาการ์ดนั้นๆจะมีค่าร่ายเป็น 0 (จนกว่าจะใช้) และการ์ดบางใบอาจมีความสามารถพิเศษ “Tick” ในขณะที่ Hold ไว้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นอีกตัวที่มีลูกเล่นมากมาย และเป็นตัวที่ป้องกันได้ดี

The Hexaghost

ความสามารถเริ่ม : ครั้งแรกที่จุด “Ghostflame” ติดในแต่ละเทิร์นจะได้รับ เกราะ 5

เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยเจอกับบอสตัวนี้ ก็คือมันชาร์จพลังไว้ในดวงไฟแต่ละเทิร์น เมื่อดวงไฟครบ 6 ดวงจะปะทุครั้งใหญ่ ที่มีความรุนแรงมากกก โดย Ghostflame ก็คือดวงไฟนั้นแหละ การจุด Ghostflame ก็คือการทำเควสของลูกไฟ Ghostflame ซึ่งจะมี 6 เควสคือ 1.ใช้การ์ดโจมตี 2 ใบ ,ใช้การ์ดทักษะ 2 ใบ,ใช้การ์ดโจมตี 2 ใบ,ใช้การ์ดพลัง 1 ใบ ,ใช้การ์ดโจมตี 2 ใบ ,ใช้การ์ดที่ใช้พลังงานครบ 3 พลังงาน เมื่อทำเควสลูกไฟสำเร็จก็จะได้รับรางวัลเล็กน้อยเช่น โจมตีซ้ำ ได้เกราะหรือใช้ Soulburn เมื่อจุดไฟครบ 6 ดวงจะทำการปะทุชุดใหญ่ไฟกระพริบ *Soulburn คือสถานะดีบัฟเผาวิญญาณ ศัตรูที่ติดสถานะ Soulburn จะลดพลังชีวิตเมื่อครบเทิร์นที่กำหนด

สำหรับแนวทางการเล่นของ The Hexaghost ก็คือ เน้นการจุดไฟ Ghostflame ซึ่งจะมีการ์ด Ignite ที่ช่วยจุดไฟทันทีโดยไม่ต้องทำเควส และ Advance (เปลี่ยนเควสไปด้านหน้า) หรือ Retract (ย้อนเควสไปด้านหลัง) ช่วยในการจุดไฟ ซึ่งถือว่าเล่นยากพอควรตัวเกมจึงมี “Afterlife” มาช่วยอีกทางก็คือ การ์ดที่มี “Afterlife” แค่ถือไว้บนมือเฉยๆเมื่อจบเทิร์นมันจะใช้เองและสลายไป

โดยรวมแล้วเป็น Mod ที่น่าสนใจมากเหมือน DLC เสริมเนื้อเรื่องและตัวละครอีก 8 ตัว! แต่ตัวใหม่ๆแอบเล่นยากไปนิดนึงเพราะความสามารถที่ต้องใช้การคิดและวางแผนจัดๆ โดยเฉพาะ 2 ตัวสุดท้าย สุดโต่งSlay the Spire อยู่แล้วแนะนำให้โหลดมาครับฟรี เล่นสนุกเพลินๆหมดวันไม่รู้ตัว อ้อตัวเกม Slay the Spire สนับสนุนภาษาไทย แต่ Mod ไม่สนับสนุนนะครับ Mod ตัวนี้ผู้พัฒนาตั้งใจทำมากๆแนะนำให้ลองเลยยย