League of Legends: Wild Rift เรียนรู้หน้าที่เบื้องต้น 5 ตำแหน่ง ต้องไปเลนไหน ต้องทำอะไรบ้าง


หลังจากที่ทาง Riot ได้เปิดให้บริการ League of Legends: Wild Rift ในช่วง OBT ที่เพิ่งเริ่มขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งผู้เล่นหน้าใหม่หลายคนที่ไม่มีประสบการณ์ในการเล่นเกมส์สาย MOBA หรือคนที่ไม่คุ้นกับการแบ่งตำแหน่งของ LOL ก็จะทำให้ งง เวลาเล่น หรืออาจเล่นไม่ตรงกับหน้าที่ของตน ซึ่งถ้าเราเล่นได้ตรงหน้าที่จะช่วยให้เราสามารถชนะได้ง่ายขึ้น มีตำแหน่งใดให้เราเล่นบ้างตามมาเลย


Baron Lane/Solo Lane หรือเราอาจคุ้นเคยกันในตำแหน่ง เลนบน ซึ่งถือเป็นเลนที่สำคัญ ผู้เล่นประจำเลนนี้จะต้องรักษาตัวเองให้รอดด้วยตัวคนเดียว ในขณะเดียวกันก็ต้องคอยรักษาป้อมแรกเอาไว้ให้นานที่สุด เพื่อรักษาพื้นที่ให้เราสามารถคุม Baron ได้ง่าย การจัดการศัตรูในเลนนี้จึงไม่ได้สำคัญเท่าการรักษาป้อมเอาไว้ให้ได้ สิ่งที่จำเป็นของการยืนในเลนนี้คือความรอบคอบ สกิลเคลื่อนที่ และ ปริมาณเลือด ทำให้ตัวละครที่เหมาะกับการเล่นในเลนนี้ได้แก่ Champion สาย Fighter, Tank และ Assasin


Jungle หรือตำแหน่งป่าที่เราคุ้นเคยกันดี ถือเป็นตำแหน่งที่สำคัญอย่างมากในช่วงต้นเกมส์ เพราะผู้เล่นตำแหน่งนี้มีหน้าที่ในการโจมตีเลนต่างๆ คอยไปเสริมเพื่อนเมื่อมีจังหวะ เพื่อให้เลนต่างๆ ของทีมเราได้เปรียบ เราจะเก็บเลเวลจนได้สกิลครบ แล้วควรรีบออกไปเติมเพื่อกดดันศัตรูตามเลนต่างๆ ให้ทีมเราได้เปรียบแล้วจึงค่อยกลับไปเก็บป่าต่อโดยต้องคอยดูอยู่ตลอดว่าผู้เล่นฝั่งตรงข้ามเลนไหนประมาท หรือเลนไหนเราเริ่มเสียเปรียบก็ควรไปช่วยเสริมทัพชิงความได้เปรียบคืนมา นอกจากนั้นหน้าที่สำคัญอีกอย่างของผู้เล่นตำแหน่งนี้คือการเก็บ Objective ภายในแมพทั้ง Drake 4 ธาตุ, Rift Herald และ Baron Nasho แต่เพื่อนๆ ในเลนใกล้เคียงก็ควรมาช่วยทำเดเมจ หรือคอยกันศัตรูไม่ให้เข้าใกล้ด้วย ตัวละครที่ควรนำมาเล่น Jungle นั้นไม่จำเป็นว่าต้องเป็น Champion สายไหน แต่เราจะดูที่สกิลจะต้องมีสกิลเคลื่อนที่ที่ดี และ สกิลสาย CC จะช่วยให้การออกไปเติมเลนมีประสิทธิ์ภาพอย่างมาก


Mid Lane หรือเลนกลางจะเป็นเลนของเหล่านักเวทย์ที่ต้องมาประลองสกิลกันแบบ 1VS1 แต่มีความปลอดภัยมากกว่าเลนอื่นเนื่องจากระยะทางของเลนนี้นั้นสั้นที่สุดจึงทำให้เข้าป้อมได้ง่ายกว่า นอกจากนั้นการเล่นของเลนกลางจะต้องคอยไปช่วยเพื่อนทั้งซ้าย และ ขวา แต่เราจะเน้นการไปช่วยทำเดเมจมากกว่า จึงทำให้ตัวละครที่อยู่เลนกลางมักจะนิยมเล่น Mage ซึ่งจะสามารถจัดเดเมจชุดใหญ่จากสกิลได้ในระยะเวลาที่รวดเร็ว


Duo Lane / Dragon Lane หรือเลนล่าง เป็นเลนที่ผู้เล่นในทีมทั้งหมดควรให้ความสนใจเพราะในเลนนี้เป็นที่ของ Champion ตัวความหวังที่จะเก่งในท้ายเกมส์อย่าง ADC ซึ่งแน่นอนว่าช่วงต้นเกมส์พวกเขาจะอ่อนแอตายง่าย และ เดเมจไม่มากพอที่จะจัดการใครได้ จึงเป็นตำแหน่งที่ต้องมีพี่เลี้ยงคอยดูแล เมื่อเราเก่งท้ายเกมส์จึงไม่เเปลกที่จะถูกฝั่งตรงข้ามมาตัดแข้งตัดขา พยายามตามล่า ADC เพื่อให้เก็บเลเวลได้ช้าที่สุด เราจึงต้องระวังอย่าให้ผู้เล่นในเลนนี้โดนกดดัน เพื่อให้ตัวละคร ADC ของเราได้มีเวลาเก็บเลเวลรวบรวมเงินซื้อไอเทมให้ได้เร็วที่สุดเราจึ้งควรปล่อยให้ผู้เล่นสายนี้ได้ลาสต์ ครีป ป้อม หรือ แม้แต่ฮีโร่ การที่ ADC เราเกิดนั้นถือว่าเป็นการรับประกันชัยชนะของทีมได้มากทีเดียว


Support อีกหนึ่ง Champion ประจำเลนมังกรพี่เลี้ยงผู้เสียสละ ผู้เล่นตำแหน่งนี้จะต้องคอยปกป้อง รักษาชีวิตผู้เล่นในตำแหน่ง ADC ไว้ให้ได้ ไม่เพียงเท่านั้นเราควรที่จะโซนให้ผู้เล่นฝั่งเราสามารถลาสครีป ลาสฮีโร่ฝั่งตรงข้ามได้ง่ายๆ ฮีโร่สายซัพพอร์ททั้งหลายอาจจะเปลี่ยนไอเทมเพื่อให้สามารถสร้างเดเมจเวทย์ที่แรงขึ้นได้ แต่ก็ไม่ควรทำหากทีมเราไม่ได้ขาดเดเมจเวทย์จริงๆ สำหรับ LOL Wild Rift นั้นการได้ Support ที่มีสกิลการเล่นที่ดี จะมีเพิ่มโอกาสให้เราชนะได้มากเลยทีเดียว จึงถือเป็นตำแหน่งที่คนเล่นต้องมีสกิลในการเล่นค่อนข้างดีเลยทีเดียว

สำหรับมือใหม่ควรศึกษารูปแบบการเล่นพื้นฐานในแต่ละตำแหน่งให้เข้าใจเสียก่อน เพราะในขั้นสูงในแต่ละตำแหน่งจะมีบาง Champion ที่ลดความสามารถประจำตำแหน่งลง แต่มีความสามารถในรูปแบบอื่นมาแทน ทำให้การวางแผนในระดับสูงนั้นสามารถวางกลยุทธได้ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นได้ เรียนรู้กันแล้วก็ตามไปฝึกกันได้วันนี้ใน League of Legends: Wild Rift ทั้งระบบ iOS และ Android ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/wildriftTH



ข่าว เกมมือถือใหม่ By Game-Ded