รีวิว HyperX Cloud Stinger 2 อัปเกรดใหม่ ราคาไม่ถึงสองพัน

เป็นอีกรุ่นหนึ่งของ HyperX ที่มียอดขายดีจนต้องอัปเกรดกัน สำหรับ HyperX Cloud Stinger ที่ไม่ได้แค่เพิ่ม เลข 2 มีการปรับปรุงทั้งภายนอกและภายในพร้อมปรับปรุงคุณภาพเสียงและไมค์ไปอี๊ก

แกะกล่องส่องของข้างในกันเลย

ข้างในเป็นกล่องพลาสติกที่ล๊อกตัวหูฟังและอุปกรณ์ต่างๆ อย่างแน่นหนา ต่อให้เขย่าหรือกระแทกของข้างในจะไม่ขยับหรือหลุดออกจากเบ้าแน่นอนแข็งแรงทนทาน มาพร้อมอุปกรณ์แปลงต่อไมค์ และฟองน้ำกันลมของตัวไมค์

สเปคข้างกล่อง

ตัวหูฟัง

• ไดร์เวอร์: 50 มม. แบบไดนามิคพร้อมแม่เหล็กนีโอดีเนียม
• ฟอร์มแฟคเตอร์: สวมเหนือหู, แบบครอบเต็ม, ปิดด้านหลัง
• ความถี่: 10 Hz – 28 kHz
• ความต้านทาน: 32 Ω
• ความไว: 97.5 dBSPL/mW ที่ 1 kHz
• T.H.D.: ≤ 2%
• ประเภทกรอบ: พลาสติก
• วัสดุรองหู: เมมโมรี่โฟมและวัสดุคล้ายหนัง

ไมโครโฟน

• ส่วนประกอบ: ไมโครโฟนอีเล็คเตรทคอนเดนเซอร์
• รูปแบบขั้ว: สองทิศทาง พร้อมระบบตัดสัญญาณรบกวน
• ความถี่: 100 Hz – 15.6 kHz
• ความไว: -40.5 dBV (1 V/Pa ที่ 1 kHz)

การเชื่อมต่อและคุณสมบัติเด่น

• การเชื่อมต่อสัญญาณเสียง: ต่อสายขนาด 3.5 มม. (CTIA 4 ตอน)
• ระบบเสียงเซอร์ราวด์เสมือนจริง: เฮดโฟน DTS:X
• ระบบควบคุมเสียง: ระบบควบคุมเสียงในตัว

ความแตกต่างของหูฟัง

HYPERX CLOUD STINGER และ HYPERX CLOUD STINGER 2

จะเห็นได้ว่าขนาดของหูฟังดูเล็กและคล่องตัวกว่า และน้ำหนักเบามากๆ ตัวไมค์เปลี่ยนเป็นแบบแกนแบบดัดงอปรับองศาได้สะดวกกว่าตัวแรก เสียงไมค์ชัดมีระบบตัดเสียงรบกวนสามารถใช้ได้หลากหลายเอาไปใช้อัดเสียงได้เช่นเดียวกัน

หูฟังสามารถปรับขนาดหูฟังออกมาได้ถึง 6 เซ็ตน์ติเมตร และตัวหัวหูฟังสามารถบิดได้ 90 องศารองรับการสวมใส่และพักไว้ระหว่างไม่ได้ใช้งานได้

ความเห็นของทีมงาน

ฟองน้ำของ HyperX คือที่สุดอยู่แล้วนู่มรับกับหัวและหูได้เป็นอย่างดีไม่รู้สึกบีบรัดแม้จะไม่ใช่คนชอบใช้ครอบหัวแบบผม เรื่องของเสียง ถ้าเทียบกับตัวเก่ารู้สึกว่าย่านเสียงทำได้ดีกว่าและฟังได้ชัดกว่าเล็กน้อย แต่ถ้าจะเทียบกับตัวใหญ่ของแบรนด์อาจจะต่างกันเล็กน้อยตามบัดเจท แต่เดี๋ยวก่อนนนนนนนนน ในราคา 1,790 ผมเอาไปใช้งานแทนหูฟังสำหรับดีเจได้อย่างไม่ขัดเขิล เสียงที่ครบทุกย่านไม่แหลมจนเกินไป และตัดเสียงรบกวนรอบๆเมื่อส่วมสองหูและคิวเพลงต่อไปได้อย่างแม่นยำ ส่วนการเล่นเกมนั้น เพื่อนๆไปทดลองตามช๊อปกันก่อนได้นะครับเดี๋ยวจะหาว่าขายตรงเกินไป

ส่วนที่ชอบที่ก็คงเป็นตัวไมค์ที่ปรับจากตัวก่อนที่ไม่สามารถดัดเข้าใกล้ปากแบบตัวเก่าได้ และมีช่องรับเสียงทั้งสองด้าน นอกจากจะเอาไปใช้งานพูดคุยระหว่างเล่นเกมได้ลองนำไปใช้ลงเสียงคลิบก็เรียกว่าเนียนกริบอยู่ ในราคานี้เอาจริงๆหรือเสียงก็คุ้มแล้วแต่ได้ไมค์ที่เก็บเสียงได้ระดับนี้มาควบไปด้วยน่าจะตัดสินใจได้ไม่ยาก

และใครที่ไม่ชอบไวเลตหรืออยากได้หูฟังที่นำไปใช้กับโทรศัพท์ข้างนอกด้วย HyperX Cloud Stinger 2 ก็เป็นหูฟังมีสายในไม่กี่รุ่นที่พึ่งออกมาในตลาดและไม่ต้องชาร์จ แค่ต่อสายแปลงก็เปิดโหมดเข้าโลกส่วนตัวได้ทันที
ราคา : 1,790 บาท

หากใครสนใจก็ลองแกล้งๆจิ้มที่ลิงค์นี้กันดูนะครับ : https://hyperx.gg/3BvYqxG