Game-Ded Review HyperX Alloy Elite [Red Switch] คีย์บอร์ดเทพๆในราคาสุดคุ้ม

ในยุคของ E-Sports ที่กำลังเติบโตอย่างมากในบ้านเรา ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์นั้นมีส่วนในการพัฒนาฝีไม้ลายมือของผู้เล่นด้วยเช่นกัน อุปกรณ์นั้นมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผู้เล่นนั้นสามารถก้าวข้ามขีดความสามารถของตัวเองเลยก็ว่าได้ และแน่นอนของที่ดีย่อมแลกมาด้วยราคาที่ค่อนข้างจะเอาเรื่องอยู่แต่ในวันนี้เวปไซต์ game-ded ขอแนะนำคีย์บอร์ดเทพๆที่ราคาไม่แพงเลยนั่นก็คือเจ้า HyperX Alloy Elite [Red Switch] 


มาว่ากันถึงคุณสมบัติ
* แถบไฟพิเศษและเอฟเฟกต์ไฟแบบไดนามิค 6 รูปแบบ
* โครงเหล็กเนื้อตัน
* สวิตช์ปุ่มกดรุ่น CHERRY® MX ทนการกดกว่า 50 ล้านครั้ง
* ปุ่มมีเดียเฉพาะพร้อมแป้นหมุนปรับระดับเสียงขนาดใหญ่
* ปุ่มใช้งานด่วนสำหรับปรับความสว่าง ควบคุมเอฟเฟกต์แสงและโหมดเล่นเกม
* เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้อย่างสะดวกผ่าน USB 2.0 pass-through
* ฟังก์ชั่น Anti-Ghosting 100% ร่วมกับ N-Key Rollover
* ที่พักมือแบบถอดแยกได้และให้ความรู้สึกสบาย พื้นผิวเคลือบเป็นแบบเนื้อนุ่ม
* ฝาครอบปุ่มมีเนื้อสัมผัสแบบพิเศษ สีไทเทเนียม จำหน่ายพร้อมอุปกรณ์ถอดฝาครอบปุ่มจาก HyperX
เราเริ่มจากตัวกล่องกันก่อนโดยในกล่องนั้นจะมีสีโทนดำแดงให้ความดุดัน ด้านบนขวาจะบอกถึงตัว Switch ที่่ใช้และเจ้าตัวนี้นั้นก็คือ  Cherry MX Red นั่นเองโดยความพิเศษของ Red Switch นั้นก็คือการตอบสนองที่ไวและแม่นยำจึงเหมาะกับการเล่นเกมส์ FPS เป็นอย่างยิ่ง หลังจากเปิดกล่องมาจะเห็นตัวคีย์บอร์ด HyperX Alloy Elite [Red Switch] ที่มากับโทนสีดำสนิทและโลโก้ Hyper X ด้านขวาที่โดดเด่นด้วยสีขาว


อุปกรณ์ภายในกล่อง
– HyperX Alloy Elite [Red Switch]
– แผ่นรองมือ
– Keycap สีไทเทเนี่ยมพร้อมตัวถอดปุ่
– คู่มือ

หลังจากแกะกล่องออกมาแล้วต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อนๆจะเห็นไฟสีแดงโดดเด่นตัดกับสีของคีย์บอร์ดที่เป็นสีดำได้อย่างเข้ากัน โดยคีย์บอร์ด HyperX Alloy Elite [Red Switch] นั้นจะมาในสไตล์เรียบหรูดุดัน สายที่ใช้เป็นสายถักอย่างดีเรื่องความทนทานบอกได้เลยว่าหายห่วงแน่นอนครับ
มาพูดถึงเรื่องไฟกันซักหน่อยเจ้า HyperX Alloy Elite [Red Switch] ตัวนี้จะมีไฟสีแดงเท่านั้นสามารถปรับความสว่างได้ถึง 3 ระดับและสามารถเปลี่ยนรูปแบบของไฟได้ถึง 6 รูปแบบ เมื่อเราทำงานหรือเล่นเกมส์เวลากลางคืนนั้่นไม่เป็นปัญหาอย่างแน่นอนครับ

ปุ่มทางด้านซ้ายเรียงจากซ้ายไปขวา
ปุ่มแรกจะเป็นปุ่มปรับระดับความสว่าง
ปุ่มที่สองจะเป็นปุ่มปรับรูปแบบไฟ
ปุ่มที่สามนั้นจะสลับเข้าโหมด Gaming และยังใช้ Setting ไฟเลือกปุ่มที่จะให้ไฟติดที่ปุ่มนั้นๆตามสไตล์ของเพื่อนๆได้ครับ
ปุ่มทางด้ายนขวาจะเป็นปุ่ม Multimedia ต่างๆและวงล้อลูกกลิ้งที่่เห็นจะเป็นที่ปรับระดับเสียงออกแบบเพื่่่อให้เเพื่อนๆใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย


อย่างที่กล่าวไปขั้นต้นว่า HyperX Alloy Elite นั้นใช้ Red Switch ของ Cherry MX เรื่องความทนทานนั้นหายห่วงอย่างแน่นอน และประสิทธิภาพการใช้งานนั้นชื่อนี้การันตีอยู่แล้วว่ายอดเยี่ยม หากเรามองจากด้านข้างจะสังเกตุได้ว่าปุ่มนั้นจะลอยไม่ติดกับแป้นข้อดีนั้นคือสามารถทำความสะอาดได้ง่าย แต่อาจจะมีเสียงดังนิดหน่อยเมื่่อเวลาใช้งาน

และสิ่่งทีค่อนข้างพิเศษใน HyperX Alloy Elite [Red Switch] นั่่่่นก็คือ USB 2.0 pass-through ที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆได้อย่างง่ายดาย เพียงต่อสาย USB จากคีย์บอร์ดทั้ง 2 เส้นที่หลังคอมพิวเตอร์เพื่อนๆก็นำอุปกรณ์อื่นๆมาต่อเข้ากับช่องเสียบหลังคีย์บอร์ดได้ทันทีครับ
ความรู้สึกหลังจากทดลองใช้งาน
ต้องพูดถึงเรื่่องหน้าตาของตัวคีย์บอร์ดกันก่อนเลยทาง สิ่งที่ผมชอบนั่นก็คือการตัดปุ่มที่่ไม่จำเป็นออกเพื่อให้การใช้งานนั้นง่ายและสะดวกมากขึ้น ผิวสัมผัสทำออกมาได้ดีและแผ่นรองมือนั้นถือว่ายอดเยี่ยมทำให้เมื่อใช้งานเป็นเวลานานนั้นไม่เกิดปัญหาเจ็บข้อมือหรือเมื้อยล้า ไฟของตัวคีย์บอร์ดนั้นมีลูกเล่นที่หลากหลายและปรับได้บนแป้นของคีย์บบอร์ดไม่ต้องลำบากไปตั้งค่าในโปรแกรมแยกต่างๆ ต่อมาในเรื่องของการใช้งานการตอบสนองค่อนข้างไวเพราะใช้ Red Switch ทำให้การใช้งานนั้นคล่องตัวเลยทีเดียวอาจมีเสียงรบกวนบ้างเนื่องจากตัวปุ่มนั้นลอยแต่ก็ไม่เป็นปัญหา และที่ชอบที่สุดก็คือUSB 2.0 pass-throughที่อยู่หลังคีย์บอร์ดทำให้ชีวิตง่ายขึ้นไม่ต้องเอื้อมไปต่อสาย USB ที่หลังคอมพิิวเตอร์เวลาอยากใช้งานอุปกรณ์อื่นๆ ฟังก์ชั่น Anti-Ghosting 100% หลังจากที่ได้ทดสอบก็ถือว่ายอดเยี่ยมไม่มีหลอนให้เห็นเลย

สรุปข้อดี
– รูปลักษณ์เรียบหรู
– ตอบสนองได้รวดเร็วและแม่นยำด้วย CHERRY® MX Red Switch
– ความทนทานเยี่ยมเพราะตัวโครงทำจากเหล็กเนื้อตัน
– Anti Ghosting ทดสอบแล้วไม่หลอน
– ปุ่มปรับไฟและปุ่ม Multi Media ใช้งานง่าย
– แผ่นรองมือใช้งานได้ดี
– USB 2.0 pass-through ถือว่าเลิศ
– ราคาถูกสามารถซื้อได้ไม่ว่าจะอยู่ในวัยนักศึกษาหรือว่าวัยทำงาน

สรุปข้อเสีย
– ไฟมีสีแดงอย่างเดียว
– คีย์บอร์ดมีน้ำหนักพอสมควร

โดยรวมถือว่าเป็นสุดยอดคีย์บอร์ดเกมส์มิ่งที่ราคาถูกเพียง 3990 บาทเท่านั้นหากเพื่อนๆคนไหนกำลังมองหาคีย์บอร์ดเกมมิ่งเกียร์เอาไว้เล่นเกมส์แล้วละก็ แนะนำ HyperX Alloy Elite [Red Switch] จ่ายแล้วจบแน่นอน

 

Comment